นายแพทย์อนันต์ โลหะพัฒนะบำรุง, (2565, ตุลาคม–ธันวาคม), ลด –เพิ่ม-ปรับ—เปลี่ยน ให้พฤติกรรมการกิน “ไม่ขาด ไม่เกิน” : ทิศไท 13 (50) : 45-47
พฤติกรรมการกินของคนไทยยุคใหม่กำลังเปลี่ยนไป ยิ่งช่วงหลังโควิด-๑๙ หลายผลสำรวจพบว่าคนไทยมีการกินไร้สมดุล ล้น เกิน หรือขาดแคลนอย่างหนักแต่เรากลับได้รับอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพน้อยลง
สังเกตตัวเองไหมว่าเรากินอาหารไขมันสูง โซเดียมสูง รวมถึงน้ำตาลเพิ่มขึ้น แต่กลับกินผักผลไม้น้อยมาก “จากข้อมูล พฤติกรรมสุขภาพของประชาการ ปี ๒๕๖๔” โดยสำนักงานสถติแห่งชาติ พบว่า พฤติกรรมของคนไทยที่นิยมรรับประทานเป็นประจำ คืออาหารไขมันสูง ๔๒% อาหารแปรรูป ๓๙% และเครื่องดื่มเติมน้ำตาลบรรจุขวดที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ๓๔% สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยกำลังขาดความมั่นคงทางอาหาร และเสี่ยงต่อการป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังในระยะยาว
พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ส่อถึงการขาดความมั่นคงทางอาหารกลุ่มวัยเรียน จะมีผลต่อ ภาวะอ้วน น้ำหนักเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน และไขมันในเลือดสูง ในอนาคต
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินโดยทันที อาจเป็นเรื่องยากและอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย ให้เริ่มต้นด้วยการปรับพฤติกรรมแบบง่าย ประกอบด้วย 4 ข้อ คือ ลด- เพิ่ม- ปรับ-เปลี่ยน
เริ่มจาก ลด อาหารหวาน เค็มมัน เลี่ยงของทอด น้ำอัดลม เนื้อสัตว์แปรรูป หันมากินอาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์แท้ ๆ แทน เพื่อให้ได้สารอาหารที่มากขึ้น
ต่อมาคือ เพิ่ม โดยการกินผักผลไม้มากขึ้น เพื่อเพิ่มไฟเบอร์ เพื่อปรับพฤติกรรมให้เคยชิน
ปรับ คือการปรับพฤติกรรมตนเอง ควรหันมาออกกำลังกายวันละ 30-60 นาที อ่านฉลากข้างผลิตภัณฑ์ก่อนเลือกซื้อ
และสุดท้ายคือ เปลี่ยน คือเปลี่ยนของที่ดีต่อสุขภาพตัวเอง เช่น เปลี่ยนน้ำหวานหรือน้ำอัดลมเป็น นม เปลี่ยนเมนูไข่ดาว เป็น ไข่ต้ม เป็นต้น
การจะมีสุขภาพที่ดีได้ นอกจากออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว การเลือกรับประทานอาหารก็สำคัญ
เพราะการมีสุขภาพที่ดี ถือเป็นกำไรชีวิตในระยะยาว