พศิน อินทรวงค์ม. (2567, มีนาคม), ลดความโกรธ เพิ่มความเมตตา : ชีวจิต : 116-117
อารมณ์โกรธเหมือนไฟเผาใจ แม้แต่ร่างกายก็ทรุดโทรมลงไปด้วยจากฮอร์โมนที่พลุ่งพล่าน จะดีกว่าไหม ที่จะลดโกรธ เพิ่มความเมตตา เพื่อใจและกายแข็งแรง ปลอดโปร่ง โล่ง เบาสบาย
1. การที่เราจะโกรธน้อยลงได้ ก็ต้องพิจารณาโทษของความโกรธว่าความโกรธนั้นส่งผลเสียหายอย่างไร ทําลายชีวิตของเรามากแค่ไหน คนโกรธเก่งจะทำลายคุณภาพชีวิตในทุกมิติ ทั้งการงาน การเงิน สุขภาพ ภาพลักษณ์ และมิตรภาพ รวมทั้งความสัมพันธ์จะดีขึ้นอีกมาก หากเป็นคนใจเย็นมากขึ้น
ความจริงแล้วคนโกรธเก่งนับได้ว่าเป็นคนที่ทุบหม้อข้าวตัวเอง ทำลายสิ่งอันเป็นที่รักของตนเอง สร้างความสูญเและหายนะให้ชีวิตตนเองมากที่สุดคนหนึ่งบนโลก
2. ความเมตตากรุณาจะเพิ่มพูนไปเอง เมื่อเราลดทอนความใจร้อนลงได้ ยิ่งโกรธเก่งยิ่งสะท้อนความเป็นคนเปราะบาง อ่อนไหว วิตกกังวล แก้ได้ด้วย การมีสติ ให้คิดก่อนพูดและทำ
3. ศึกษาให้ดีเกี่ยวกับความคุ้นชินของจิต จิตไหลไปตามความรู้สึกใดบ่อยๆ ความรู้สึกนั้นย่อมถูกผลิตซ้ําได้ง่าย ผู้ใดมีความสุขก็จะยิ่งมีความสุข ผู้ใดมีความทุกข์ ก็จะยิ่งมีความทุกข์ เป็นไปตามการสั่งสมและความคุ้นเคย
4. การทําลายความคุ้นชินเก่าและสร้างความคุ้นชินใหม่มีอยู่ 3 ขั้นตอน หนึ่งคือเห็น สองคือวิเคราะห์ สามคือย้ายทิศทาง
5. เห็น คือมีสติรู้ว่าตนเองกําลังคิด แต่เราไม่ได้เห็นความคิด ส่วนผู้เห็นจะเป็นผู้อยู่เหนือความคิด
6. แยกแยะความคิดชนิดนี้ว่าเป็นคุณหรือโทษ เป็นบวกหรือลบ เป็นกุศลหรืออกุศล
7. ย้าย คือหากดูแล้วเป็นโทษ เป็นลบ ให้รีบย้ายฐานความคิดใหม่ ให้เป็นความคิดที่มี คุณภาพ เป็นบวก
8. เห็น แยก ย้าย เห็นและแยก รู้ว่าคิดอะไร แล้วจึงย้ายฐานใจไปสู่ความคิดดี ๆ คือ 3 ขั้นตอนสําคัญของ การเปลี่ยนจากคนโกรธง่ายให้กลายเป็นคนมีเหตุมีผลมีความเมตตา
9. นอกจาก 3 ขั้นตอนอันทรงพลังนี้แล้ว เราจะฝึกความเมตตาของเราได้ด้วยการฝึกคิดถึงความรู้สึกของผู้อื่นเสมอ
10. ความโกรธคือไฟ ความเมตตาคือสายน้ำ แม้ไฟในโลกจะมีประโยชน์ แต่ไฟในใจนั้นไร้ประโยชน์ ชีวิตคนเราหลีกเลี่ยงการถูกเบียดเบียนไม่ได้ เราต่างเป็นผู้กระทําและถูกกระทำเป็นบางครั้ง หนักนิดเบาหน่อย สิ่งเล็กน้อยมองข้ามไปบ้าง