หน้าหลัก > ข่าว > แนะนำวารสารใหม่ > 8 เทคนิคบอกลากลิ่นปาก
8 เทคนิคบอกลากลิ่นปาก

ผู้ดูแลเว็บ admin
17 มกราคม 2567 12:03:33

กองบรรณาธิการ. (2566, ธันวาคน), 8 เทคนิคบอกลากลิ่นปาก : ชีวจิต : 8


          ทําไมตื่นเช้าถึงมีกลิ่นปาก เพราะขณะนอนหลับ น้ำลาย ถูกขับออกมาน้อย เศษอาหารที่ตกค้างจึงบูดและมีกลิ่น หลังจากตื่นนอนและแปรงฟันแล้ว น้ำลายออกมามากขึ้น กลิ่นปากก็จะค่อย ๆ ลดลง

            กลิ่นปากแบ่งเป็น 2 ประเภท คือกลิ่นปากชั่วคราวและ กลิ่นปากเรื้อรัง

            กลิ่นปากชั่วคราว เป็นกลิ่นปากที่ไม่ได้เกิดจากมีโรค ต่าง ๆ สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่ การบริโภคอาหาร    มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม ต้นหอม ปลา และ ปลาหมึก รวมถึงการสูบบุหรี่และดื่มเหล้า แก้ไขโดยการแปรงฟัน ใช้น้ำยาบ้วนปาก เคี้ยวหมากฝรั่ง

            กลิ่นปากเรื้อรัง มักเกิดจากอวัยวะต่าง ๆ ดังนี้

            โคนลิ้น เป็นตําแหน่งที่ทําให้เกิดกลิ่นปากเรื้อรังมากที่สุด เพราะเป็นเนื้อเยื่อขรุขระ ทั้งเศษอาหาร สารคัดหลั่งต่าง ๆ จากช่องปากและโพรงจมูกจึงสะสมดั่งค้างอยู่มาก และเนื่องจากอยู่ลึกจึงทําความสะอาดได้ยาก

             ช่องปากส่วนอื่นๆ กลิ่นปากมักเกิดจากภาวะหรืออาการ ปาก/คอแห้ง เศษอาหารจึงติดค้างได้มากและนานจากการรักษาความสะอาดไม่ดีพอหลังจากการกินอาหาร

            ทอนซิล เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก เพราะทอนซิลมีลักษณะเป็นร่องและเป็นแหล่งดักจับเชื้อโรค จึงมีเศษ น้ำเมือก และแบคทีเรียที่ตายแล้วสะสมอยู่

            จมูก กลิ่นปากที่เกิดจากการเป็นโรคบริเวณจมูกที่พบบ่อย ได้แก่ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง ยังเป็นสาเหตุให้มีน้ำมูกไหลลงคอด้านหลังโพรงจมูก แล้วไปตกค้างที่โคนลิ้นหรือทอนซิล

            หลอดอาหาร เช่น หลอดอาหารอักเสบเรื้อรัง โรคกรดไหลย้อน โรคมะเร็ง โรคกระเพาะอาหาร

            โรคมะเร็งเนื้อเยื่อทุกชนิดในช่องปากและลําคอ เป็น อีกสาเหตุที่ทําให้เกิดกลิ่นปาก เนื่องจากมีการสะสมแบคทีเรีย ในเนื้อมะเร็งที่ตายแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับโรคอื่นๆ

8 วิธีบอกลากลิ่นปาก

            1. แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือตอนตื่นนอนและ ก่อนเข้านอน แปรงลิ้นและโดนลิ้นและใช้ไหมขัดฟันวันละครั้ง

            2. เลิกสูบบุหรี่ สุรา และเครื่องดื่มคาเฟอีน เพราะคาเฟอีนทําให้ร่างกายขับน้ำออกทางปัสสาวะมากขึ้น ทำให้ปากคอแห้ง

            3. หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารมีกลิ่น หรือหลังจากบริโภคควรแปรงฟัน บ้วนปาก หรือเคี้ยวหมากฝรั่ง

            4. ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว เพื่อช่วยให้ช่องปากและลําคอสดชื่น ชุ่มชื้น  

            5. ใช้น้ำยาบ้วนปาก พ่นสเปรย์ลดกลิ่นปาก เดี๋ยวหมากฝรั่ง

            6. รักษาความสะอาดฟันปลอม

            7. พบทันตแพทย์สม่ําเสมอ อย่างน้อยทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี

            8. พบแพทย์หรือทันตแพทย์เมื่อมีกลิ่นปากเรื้อรัง