![]() |
ข้าวแช่
อาหารโบราณประจำฤดูร้อนที่มีให้ชิมกันในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมเท่านั้น
ถึงปัจจุบันจะมีหลายร้านที่มีข้าวแช่ขายตลอดทั้งปี
แต่ช่วงเวลาที่เมนูนี้ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ยังเป็นช่วงฤดูร้อน
เพื่อให้ความหอมเย็นของน้ำข้าวแช่
และรสชาติหวานเค็มของเครื่องเคียงช่วยขจัดความร้อนและเพิ่มความเย็น
ข้าวแช่เดิมเป็นอาหารในประเพณีสงกรานต์ของชาวมอญ
แพร่หลายเข้าสู่ราชสำนักโดยข้าราขการฝ่ายในเชื้อสายมอญ
และเผยแพร่กลับสู่ชาวบ้านอีกครั้งเมื่อมีการแปรพระราชฐานไปยังจังหวัดเพชรบุรี
ทำให้ข้าวแช่ในไทย แบ่งเป็น ข้าวแช่ชาววัง
ข้าวแช่เมืองเพชร และข้าวแช่มอญ
สำรับข้าวแช่แบ่งเป็นส่วนของข้าวและส่วนของเครื่องเคียง
ข้าวที่ใช้ต้องเป็นข้าวเก่าเพื่อให้หุงเป็นตัวสวย
โดยจะหุงให้เข็งเป็นตัวกว่าข้าวสวยโดยปกติ
นำมาขัดในน้ำด้วยมือหลายครั้งจนเม็ดข้าวเป็นเงาสวย
ส่วนน้ำข้าวแช่
จะใช้น้ำลอยดอกไม้หอมตามฤดูกาล เช่น มะลิ
กุหลาบ ชมนาด กระดังงา และอบด้วยควันเทียน
โรยด้วยพิมเสนเพื่อให้ความเย็น
ก่อนเปลี่ยนมาใช้น้ำแข็งในปัจจุบัน
เครื่องข้าวแช่ในแต่ละตำรับจะแตกต่างกันออกไป
นับเฉพาะที่ยังได้รับความนิยมในปัจจุบันน่าจะได้แก่
ลูกกะปิ หอมแดงยัดไส้ ไชโป๊วผัดหวาน
ปลายี่สนผัดหวาน พริกหยวกสอดไส้ และผักสด
เช่น มะม่วงดิบ กระชาย แตงกวา พริกสด
ต้นหอม
การรับประทานข้าวแช่จะไม่ตักเครื่องใส่ลงในข้าว
แต่จะตักเครื่องและข้าวเป็นคำๆ แยกกัน
โดยเริ่มจากเครื่องที่มีความเค็มและคาวก่อน
เช่น พริกหยวกยัดไส้ ลูกกะปิทอด
หลังจากนั้นจึงเริ่มรับประทานเครื่องที่มีรสหวาน
ระหว่างนั้นอาจรับประทานผักสดเคียงกันไปเพื่อตัดเลี่ยนและเสริมรสชาติ
เรื่องและภาพประกอบ : รัชนก ทองขาวขำ