หน้าหลัก > ข่าว > แนะนำวารสารใหม่ > ความมั่นคงทางอาหารของครัวเรือนเกษตรกรในจังหวัดน่าน : วารสารบริหารธุรกิจและศิลปะศาสตร์ราชมงคลล้านนา
ความมั่นคงทางอาหารของครัวเรือนเกษตรกรในจังหวัดน่าน : วารสารบริหารธุรกิจและศิลปะศาสตร์ราชมงคลล้านนา

ผู้ดูแลเว็บ admin
27 สิงหาคม 2564 14:46:04

รศ.เพ็ญจันทร์ รวิยะวงค์. (2563, มกราคม-มิถุนายน), ความมั่นคงทางอาหารของครัวเรือนเกษตรกรในจังหวัดน่าน : วารสารบริหารธุรกิจและศิลปะศาสตร์ราชมงคลล้านนา. 8 (1) : 25-36

                ผลการวิจัย พบว่าความมั่นคงทางอาหารของครัวเรือนเกษตรกรในจังหวัดน่านในภาพรวมพบว่าครัวเรือนส่วนใหญ่ร้อยละ 39.17 มีความมั่นคงทางอาหารในระดับมาก  ครัวเรือนเกษตรกรส่วนใหญ่ร้อยละ  68.33  มีความมั่นคงของการมีอาหารในระดับตํ่า เนื่องจากที่ดินทํากินมีน้อยผลผลิตต่อไร่ตํ่ากว่าค่าเฉลี่ยของผลผลิตต่อไร่ของจังหวัดน่านและมีปริมาณข้าวสํารองตํ่า จึงควรมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับปรุงบํารุงดินให้มีคุณภาพ  เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกมีน้อย มีจำกัด การขยายพื้นที่เพาะปลูกไม่สามารถทําได้ การที่ผลผลิต ต่อไร่ตํ่าอาจเนื่องจากปริมาณนํ้าฝนน้อยในฤดูเพาะปลูกภัยพิบัติอื่นๆการทํานาได้ปีละครั้งและคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ข่าว

ครัวเรือนเกษตรกร ควรดําเนินการดังนี้

1. วางแผนก่อนซื้ออาหาร

          2. ประกอบอาหารรับประทานเองในครอบครัวทําให้ประหยัดค่าใช้จ่าย

          3. ควรมีการผลิตอาหารเองได้ตลอดปีและสามารถเก็บไว้ใช้ได้ทุกเมื่อเมื่อมีความต้องการ

          4. ประมาณการค่าใช้จ่ายอาหารไว้ล่วงหน้าจะทําให้ได้อาหารตามความจําเป็นและต้องการ

          5. ควรบันทึกรายรับรายจ่ายของครัวเรือนจะทําให้ควบคุมรายจ่ายได้

          6. ปลูกพืชผักสวนครัวทําให้ประหยัดค่าใช้จ่ายและปลอดภัยจากสารปนเปื้อน

          7. ลดการซื้ออาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายจะทําให้ประหยัดค่าใช่จ่ายและสร้างพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ดี

          8. การสร้างนิสัยการบริโภคที่ดีคือการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าอาหารที่มีราคาแพงแต่มีคุณค่าน้อย

          9. ทําเกษตรแบบผสมผสานแทนการปลูกพืชเชิงเดี่ยวเน้นการปลูกที่เป็นพืชอาหาร

          10. การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อใช้ปลูกต่อการดําเนินงานโครงการของหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานสนับสนุนอื่น ๆ ในการแก้ปัญหาความมั่นคงทางอาหารของครัวเรือนเกษตรกรในจังหวัดน่าน ควรเป็น โครงการเกี่ยวกับระบบชลประทานเพื่อให้เกษตรกรมีนํ้าทํานาได้อย่างพอเพียง